ทัวร์ไต้หวัน ไทจง 3วัน 4คืน
กรุงไทเป (Taipei) เมืองหลวงประเทศไต้หวันเป็นศูนย์รวมทางด้านต่างๆ ของไต้หวัน ทั้งการศึกษา การค้า อุตสาหกรรม เทคโนโลยี และวัฒนธรรม ไทเปอยู่ตอนเหนือของประเทศ มีประชากรประมาณ 3 ล้านคนเมืองที่มีความเป็นจีน แต่หลายอย่างในประเทศคล้ายญี่ปุ่นมากมาก แต่ราคาถูกกว่าเยอะ ที่สำคัญประเทศนี้ฟรีวีซ่าให้กับคนไทย ดีปุยมุ้ย ต้องไปโดนกันนะคะ
ดาวน์โหลดโปรแกรม ทัวร์ไต้หวัน คลิ๊กที่นี่ อ่านข้อมูลเกี่ยวกับ ไต้หวัน จาก "ข้อมูลท่องเที่ยว" ของเราคลิ๊กที่นี่ ดูโปรแกรม เที่ยวไต้หวัน อื่นๆคลิ๊กที่นี่วันที่ 1 สนามบินเถาหยวน – ถนนโบราณต้าซี – โรงละครแห่งชาติไถจง – ตลาดเฝิงเจี่ยไนท์มาร์เก็ต
ถนนโบราณต้าซี (Daxi Old Street) ย่านการค้าของเมือง ย่านถนนโบราณต้าซีเต็มไปด้วยร้านเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบดั้งเดิม อีกทั้งยังสามารถเห็นอาชีพดั้งเดิมของคนท้องถิ่นที่นี่ เช่น การทำเต้าหู้แห้งที่โด่งดังของต้าซี และงานทำหิน โดยร้านค้าต่างๆ จะตกแต่งในสไตล์บาร็อคญี่ปุ่น ประดับด้วยรูปปั้นแกะสลักอันสวยงาม อาหารที่ต้องลิ้มลองที่ต้าซีอีกอย่างก็คือ ถั่วแห้ง ท่านทั้งหลายต้องมาลิ้มลองกันนะคะขอบอก
โรงละครแห่งชาติไถจง เป็นโรงละครที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวญี่ป่นชื่อดัง อิโตะ โตโย (Ito Toyo) จากแนวคิด “ถ้ำเสียง”จึงทำให้กำแพงของอาคารมีความโค้งมนเป็นเอกลักษณ์ และสามารถตั้งอยู่ได้ โดยไม่ต้องใช้เสาค้ำและกำแพงตั้งฉาก ภายในอาคารประกอบด้วย โรงละครหลัก (Grand Theatre) โรงละครเล็ก (Play House) ห้องโล่ง (Black Box) และพื้นที่กิจกรรม (Corner Salon) ซึ่งสามารถจัดได้ทั้งการแสดงและงานประชุมระดับนานาชาติ นอกอาคารยังมีสวนกลางแจ้ง (Outdoor Plaza) และสวยลอยฟ้า (Rooftop Sky Garden) เปิดต้อนรับผู้มาเยือนให้มานั่งพักผ่อน จึงเป็นที่น่าแวะมาชมความงามอย่างยิ่ง ต้องมาแล้วล่ะ
เฝิงเจี่ยไนท์มาร์เก็ต (Feng Chia Night Market) ตั้งอยู่ที่เมืองไทจง ใกล้มหาวิทยาลัยฟงเจี่ย (Feng Chia University) ครอบคลุมพื้นที่ทั้งตลาดกลางคืนฟงเจี่ย-เหวินหวา (Feng Chia-Wenhua Night Market) ถนนฟงเจี่ย (Feng Chia Rd.) และถนนฟูฉิง (Fuxing Rd.) ตลาดกลางคืนแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นตลาดกลางคืนชื่อดังของเมืองไทจงและที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน มีของขายมากมายให้ได้ช้อปปิ้งกัน อย่างจุใจ ภายในมีสินค้าคุณภาพดีเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอาง และอาหารแบบ สตรีทฟู้ดมากมายให้ลิ้มรสความอร่อย อีกอย่างที่ขึ้นชื่อคืออาหารทานเล่นสไตล์ไต้หวัน เมนูที่ขึ้นชื่อของที่นี่เลยก็มี ชานมไข่มุก ไก่ทอด หลู่เว่ย เต้าหู้เหม็น มีร้านอาหารทานเล่นอยากแนะนำด้วยนะเออ ไก่ทอดยักษ์ HOT-STAR ร้านไก่ทอดชื่อดังที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวและคนไต้หวัน ด้วยความไก่ใหญ่บึ้มๆนุ่มละมุนลิ้น ห่อด้วยแป้งกร๊อบกรอบอีกเอ้า เรียกว่าอิ่มให้ตัวแตกแล้วแยกกลับบ้านนอน
วันที่ 2 ฟาร์มแกะชิงจิ้ง - ชิงจิ้งสกายวอล์ค - เมืองหนานโถว – วัดเหวินหวู่ – ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา – สวนองุ่นบราซิล
ฟาร์มแกะชิงจิ้ง ดินแดนแห่งทุ่งหญ้าสีเขียวขจีท่ามกลางเมืองเล็กๆ ที่รายล้อมไปด้วยทิวทัศน์ของเทือกเขาเหอฮวนซานสุดแสนอลังการ ที่เป็นทั้งฟาร์มแกะ สถานที่เพาะปลูกต้นไม้และผลไม้เมืองหนาว และที่ตั้งของสกายวอล์คที่สูงที่สุดในไต้หวัน อย่างชิงจิ้งสกายวอล์ค พร้อมด้วยสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก ทำให้ที่นี่มีบรรยากาศคล้ายทางชนบทของประเทศในยุโรปจนได้รับการขนานนามให้เป็น "สวิตเซอร์แลนด์แห่งไต้หวัน” กันเลยที่เดียว
เมืองหนานโถว (Nantou) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและตั้งอยู่ใจกลางเกาะไต้หวัน ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใจกลางหัวใจของไต้หวัน
เป็นเมืองเดียวที่ดินแดนไม่มีเขตติดต่อชายฝั่งทะเล ยังเป็นต้นกำเนิดแม่น้ำโจวสุ่ย (Zhuoshui River) แม่น้ำยาวที่สุดในไต้หวันหล่อเลี้ยงผู้คนในเมือง ยังมีทะเลสาบสุริยันจันทราเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเมืองหนานโถวอีกด้วย
วัดเหวินหวู่ (Wenwu Temple) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1938 ตั้งอยู่ทางด้านขวาของทะเลสาบสุริยันจันทรา ภายในวัดมีรูปปั้นของขงจื้อและเทพกวนอู ซึ่งชาวไต้หวันเชื่อกันว่า หากได้บูชาเทพเจ้ากวนอู จะได้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีแต่คนจงรักภักดี หรือหากวางแผนสิ่งใด ก็จะประสบความสำเร็จตามปรารถนา จึงทำให้ได้รับความนิยมจากชาวไต้หวัน ที่มาสักการะขอพรองค์เทพในวัดแห่งนี้ ด้านหน้ามี สิงโตหินอ่อน (Chinese Guardian Lion) 2 ตัว แสดงถึงความยิ่งใหญ่และเป็นเอกลักษณ์ของวัดเหวินหวู่ ชาวไต้หวันเชื่อว่าเป็นสิงโตผู้พิทักษ์และจะอยู่เป็นคู่ชาย-หญิงอยู่เสมอ ซึ่งตัวผู้อยู่ทางขวาเหยียบลูกโลก ตัวเมียอยู่ทางซ้ายกับลูกสิงโตตัวน้อย
ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake) แบบหมู่คณะ ให้ท่านได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามของทะเลสาบสุริยันจันทราแลนด์มาร์คสำคัญของไต้หวัน ที่มาของชื่อทะเลสาบสุริยันจันทรานั้นมาจากมีลักษณะรูปร่างทางตอนเหนือคล้ายพระอาทิตย์ ทางตอนใต้มีรูปร่างกลมคล้ายพระจันทร์ พื้นที่รอบทะเลสาบยังอุดมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตมากมาย อาทิ ปลา นก และสัตว์อื่นๆ หลากหลายสายพันธุ์ ระหว่างล่องเรือชมบรรยากาศที่สวยงามในทะเลสาบ มีเกาะลาลู (Lalu Island) ตั้งอยู่กลางทะเลสาบสุริยันจันทรา เป็นที่รู้จักกันในนามเกาะบนน้ำ อดีตบริเวณนี้เป็นที่อาศัยของชนเผ่าพื้นเมือง จนกระทั้งปี ค.ศ. 1946 ทางรัฐบาลไต้หวันได้เปลี่ยนชื่อเป็น เกาะกวงฮวา (Guanghua Island) ต่อมาปี ค.ศ. 1999 ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทำให้ทะเลสาบสุริยันจันทราได้รับความเสียหายทำให้มีการค้นพบซากอารยธรรมและของใช้โบราณของชนเผ่าพื้นเมือง จนปี ค.ศ. 2000 จึงกลับมาใช้ชื่อเดิมเป็นเกาะลาลูจนถึงปัจจุบัน ในอดีตชนเผ่าพื้นเมืองใช้เกาะลาลูเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ระหว่างล่องเรือแวะพักที่ท่าเรือ ให้ท่านได้อิสระและแนะนำให้เลือกชิม ไข่ต้มใบชา(Taiwanese Tea Eggs) ก่อนขึ้นเขาไปนมัสการพระถังซัมจั๋ง เป็นไข่ต้มใบชาร้านดังที่ไม่ว่าใครก็ ต้องมาลิ้มลองไข่ต้มใบชาสูตรพิเศษของอาม่า ความอร่อยนั้นอยู่ความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนตั้งแต่การต้มไข่พร้อมกับสมุนไพรต่างๆ รวมถึงเห็ดหลินจือ ทำให้เมื่อชิมไปคำแรกจะได้กลิ่นหอมของสมุนไพรพร้อมกับรสชาติเค็มนิดหน่อยของตัวซอส รวมแล้วเข้ากันอร่อยสุดๆ ร้านไข่ต้มใบชาของอาม่าเป็นร้านเดียวที่ได้รับอนุญาตให้เปิดขายได้บนท่าเรือในทะเลสาบสุริยันจันทราและมีสาขาที่นี่ที่เดียวเท่านั้น แวะสวนองุ่นบราซิล พร้อมเด็ดชิมสดๆจากสวน โดยสวนจะนำมาแปรรูปทั้งน้ำเอนไซม์ สกัดผงและอบแห้ง มีสรรพคุณคือช่วยล้างสารพิษที่สะสมในร่างกาย
วันที่ 3 อุทยานแห่งชาติเย่หลิ่ว – หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น – เมืองผิงซี – หมู่บ้านโบราณสือเฟิ่น– เมืองไทเป – ร้านพายสับปะรด – ย่านซีเหมินติง 
อุทยานแห่งชาติเย่หลิ่ว (Yehliu Geopark) อุทยานแห่งนี้ตั้งอยู่ทางส่วนเหนือสุดของเกาะไต้หวัน มีลักษณะพื้นที่เป็นแหลมยื่นไปในทะเล การเซาะกร่อนของน้ำทะเลและลม ทะเล ทำให้เกิดโขดหินงอกเป็นรูปร่าง ลักษณะต่างๆ น่าตื่นตาทีเดียว อาทิ หินรองเท้านางฟ้า, หินทะเลเทียน, หินช้าง, หินไอศกรีม, หินเศียรเจ้าหญิง, หินหัวมังกรและอื่นๆ และเนื่องจากมีพื้นที่ใกล้กับชายฝั่งทะเลดังนั้นจึงทำให้พื้นที่นี้มีหินรูปทรงแปลกตาอีกมากมาย และที่เป็นไฮไลท์และมีนักท่องเที่ยวเข้าคิวรอถ่ายรูปด้วยมากที่สุดคือ หินเศียรราชินิ ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ให้ท่านได้ดื่มด่ำบรรยากาศธรรมชาติสร้างและหินรูปร่างแปลกตา รวมถึงจุดชมวิวแบบ 360 องศา
หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น (Jiufen Old Street) ที่ตั้งอยู่บริเวณไหล่เขาในเมือง จีหลง จิ่วเฟิ่น ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นถนนคนเดินเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงในไต้หวัน เพลิดเพลินบรรยากาศแบบดั้งเดิมของร้านค้า ร้านอาหารของชาวไต้หวันในอดีต ชื่นชมวิวทิวทัศน์ รวมทั้งเลือกชิมและซื้อชาจากร้านค้า มากมาย ทั้งนี้หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่นยังเป็นที่ตามรอยของสาวกการ์ตูน เรื่อง SPIRITED AWAY การ์ตูนอนิเมชั่นชื่อดังของญี่ปุ่น ที่ได้นำฉากตึกโคมไฟในหมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่นดำเนินเรื่องอีกด้วย ช่วงแนะนำของอร่อย เป็นต้นกำเนิด บัวลอยเผือกสไตล์ไต้หวัน บัวลอยของไต้หวันจะชิ้นใหญ่กว่าและเนื้อหนึบกว่ามาก แต่ละสีก็คนละรสชาติและมีความหนึบไม่เท่ากัน ส่วนน้ำเชื่อมจะเป็นน้ำถั่วเขียวหอมหวาน สามารถสั่งได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น เมืองผิงซี (Pingxi) หรือที่รู้กันในชื่อเส้นทางรถไฟผิงซี โดยเมืองนี้มีชื่อเสียงโด่งดังมาจากภาพยนตร์รักโรแมนติกเรื่อง YOU ARE THE APPLE OF MY EYE เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในฉากที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงทำให้ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟสาย โรแมนติกของไต้หวันเลยทีเดียว
หมู่บ้านโบราณสือเฟิ่น (Shifen Old Street) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเมืองผิงซีเป็นหมู่บ้านที่มีทางรถไฟพาดผ่านกลางหมู่บ้าน ถือว่าเป็นหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งที่แห่งนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องของการปล่อยโคมลอยหรือ โคมขงหมิง โดยทุกๆ ปีทุกแห่งจะมีการจัดเทศกาล PINGXI SKY LANTERN FESTIVAL ในวันหยวนเซียว หรือวันที่ 15 ของเดือน 1 ทั้งยังเพลิดเพลินกับร้านอาหารท้องถิ่น หรือขนมชื่อดังไอศครีมถั่วตัดไอศครีมรสกะทิที่เข้มข้นถึงใจ โรยด้วยถั่วตัดที่ทำขึ้นสดๆ เมื่อทานคู่กันกับไอศครีมเข้ากันได้ดีแบบลงตัวสุดๆ เป็นอีกหนึ่งขนมที่มาเยือนไต้หวันต้องลิ้มลอง
ร้านขนมพายสับปะรด (Pineapple Cake Shop) ชื่อดังของไต้หวัน เป็นขนมยอดนิยมของไต้หวัน (ขนมพายสับปะรด, ป๊อปคอร์น, เห็ดทอด)
ซีเหมินติง (Ximending) ตั้งอยู่ในเมืองไทเป ที่แห่งนี้เปรียบเสมือนสยามแสควร์ในกรุงเทพฯ เป็นแหล่งรวมแฟชั่นที่ทันสมัยของวัยรุ่นในไต้หวันภายในตลาดมีของมากมาย โดยเฉพาะสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าเครื่องสำอาง หรือของกิ๊ฟช้อปมากมายที่มีให้อัพเดทแฟชั่นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นของที่มีแบรนด์ หรือไม่มีแบรนด์ อีกทั้งสินค้ามีแบรนด์ของที่นี่ยังถือได้ว่ามีราคาที่ถูกเหมาะสำหรับนักช้อปใจฟูได้ช้อปปิ้งกันอย่างจุใจ
วันที่ 4 วัดหลงซาน – ตึกไทเป 101– อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค – ห้างเอาท์เล็ทมิตซุย
วัดหลงซาน (Longshan Temple) เป็นวัดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงของคนไต้หวัน วัดแห่งนี้มีอายุราวๆ เกือบ 300 ปี ด้านหน้าตกแต่งด้วยเสามังกรทั้งซ้ายและขวา เปรียบเสมือนกำลังปกป้องห้องโถงกลาง ในปี ค.ศ. 1740 เกิดความเสียหายครั้งใหญ่ทางวัดจึงได้รับการบูรณะหลายครั้ง ทั้งบานประตู คาน หลังคา และเสามังกรแกะสลักตระหง่านสวยงาม เป็นประติมากรรมที่มีความละเอียดอ่อนเป็นงานไม้ที่สวยงาม มีหนังสือจีนโบราณประดับตรงทางเข้าให้ความสัมผัสของวรรณกรรมนอกเหนือจากคุณค่าทางศาสนายังส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกด้วย ปัจจุบันเป็นที่นิยมมาขอพรเรื่องการงาน การเรียน ที่สำคัญเรื่องความรัก เชื่อกันว่าใครที่ไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรัก ให้ขอพรกับเทพเฒ่าจันทราที่วัดแห่งนี้ แล้วความรักจะกลับมาดีขึ้น
ตึกไทเป 101 (Taipei 101) ได้ถ่ายรูปคู่กับแลนด์มาร์คของประเทศไต้หวัน ตึกที่มีความสูงเป็นอันดับ 5 ของโลกในปัจจุบัน (อันดับในปี 2016) ซึ่งมีความสูงถึง 508 เมตร ซึ่งด้านล่างเป็นห้างสรรพสินค้า ที่รวบรวมร้านค้าแบรนด์ดังระดับโลกไว้ ทั้งนี้จุดไฮไลท์ของตึกไทเป 101 คือลิฟต์ความเร็วสูงพิเศษสองตัว ซึ่งสามารถขึ้นได้ด้วยความเร็ว1,010 เมตรต่อนาที ใช้เวลาเพียง 37 วินาทีในการเดินจากชั้น 5 ไปยังจุดชมวิวชั้น 89 ลิฟต์ทั้งสองนี้เป็นลิฟต์อัจฉริยะความเร็วสูงเพียงตัวเดียวในโลกที่ติดตั้งอุปกรณ์แรงดันคงที่ ในชั้น 89 เป็นจุดชมวิวเมืองไทเปแบบ 360 องศา ที่มีความสูง 382 เมตร มีลูกบอลกันกระแทกขนาดใหญ่ ชื่อเต็มอย่างเป็นทางการคือ Tuned Mass Damper TMD ซึ่งเป็นระบบลดแรงสั่นสะเทือนที่ปรับให้เข้ากับความสมดุลของอาคารนี้ การแกว่งของอาคารเมื่อถูกลมแรงพัดทำให้ระดับความรุนแรงลดลง
อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค (Chiang Kai Shek Memorial Hall)สถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงนายพลเจียงไคเช็ค ประธานาธิบดีคนแรกของไต้หวัน ที่ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อ พ.ศ.2518 ที่ตั้งของอนุสรณ์สถานเดิมเป็นกองบัญชาการกองทัพบก ซึ่งเป็นเขตทหารที่ใหญ่ที่สุดในเขตเมืองไทเปในสมัยนั้น ตัวอาคารใช้สีฟ้าและสีขาวซึ่งเป็นสีของธงชาติไต้หวันเป็นหลัก หลังคาถูกออกแบบในความหมายของท้องฟ้าสีครามและดวงอาทิตย์ที่มีแสงสว่าง 12 ลำแสง รูปปั้นสัมฤทธิ์ของท่านอดีตประธานาธิบดีหันหน้าไปทำเนียบประธานาธิบดีและจีนแผ่นดินใหญ่ในทางทิศตะวันตก ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีนัยพิเศษ ด้วยแนวคิดด้านประชาธิปไตยที่เปิดกว้างมากขึ้น ทำให้ลานด้านหน้าของอนุสรณ์สถานกลายเป็นสถานที่ชุมนุมของกลุ่มเพื่อประชาธิปไตย ก่อนกลับไทยแวะช้อปต่อที่ ห้างเอาท์เล็ทมิตซุย (Mitsui Outlet) เป็นห้างที่เปิดตัวภายใต้การดำเนินการของบริษัท Japanese Mitsui Group ซึ่งเป็นเจ้าของห้างเอาท์เล็ทชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น ที่นี่คือห้างเอาท์เล็ทแบบเต็มรูปแบบ 5 ชั้น ภายในห้างมีการแบ่งพื้นที่ไว้เป็น 2 ส่วน IN MALL และOUT MALL พื้นที่ให้บริการจากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก สามารถยื่นขอทำ Tax Refund เมื่อช็อปปิ้งมากกว่า 2,000 ดอลลาร์ไต้หวัน พร้อมยื่น Passport ได้ที่แผนก Information ที่ชั้น 1 ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์รวมร้านอาหารไต้หวันและร้านอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมในไต้หวัน และยังมีซุปเปอร์มาร์เก็ต JASONS Market ชานมไต้หวันแบบขวด ขนมไต้หวัน สามารถเลือกซื้อกลับไปเป็นของฝากคนที่บ้าน ในห้าง Free Wi-Fi พร้อมตู้สำหรับชาร์จโทรศัพท์
TAG : ทัวร์ไต้หวัน อิสระ |
[url=https://www.gurutrip.co.th/tour/%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99/6/en]ทัวร์ไต้หวัน 4 วัน 3 คืน[/u][/b][/url] |
ทัวร์ไต้หวัน 2024 |
ทัวร์ไต้หวัน บริษัท ไหนดี
Show Posts
หลายคนเมื่อมีงบประมาณและเห็นช่วงวันหยุดยาวในปฏิทินก็รู้สึกอยากจะแพ็คกระเป๋าเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศกัน ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวฮ่องกง เที่ยวญี่ปุ่น หรือเที่ยวเกาหลี ประเทศสุดฮิตแถบเอเชียใช่ไหมล่ะคะ แต่!! ก็ไม่ได้ไปสักทีเพราะความลังเลหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นความกังวลต่างๆ เมื่อต้องไปเที่ยวต่างประเทศ การเดินทาง การจองตั๋วเครื่องบินหรือโรงแรม แล้วหากเราเจอปัญหาที่คาดไม่ถึงเมื่อไปเที่ยวจะต้องทำอย่างไร? เรียกได้ว่ามีสารพัดปัญหาให้คิดจนสุดท้ายวันหยุดก็ผ่านเลยไป
เพราะฉะนั้นลองมาดูตัวเลือกอย่าง การไปเที่ยวกับ “
1. สะดวกสบาย ไม่ต้องวางแผนเองให้ปวดหัวการไปเที่ยวต่างประเทศกับทัวร์ เราไม่ต้องวางแผนการเดินทางเอง ไม่ว่าจะเป็นวัน-เวลาเดินทาง การจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก แผนการเที่ยว แหล่งช้อปปิ้ง ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นบริษัททัวร์จัดไว้ให้เราเรียบร้อยแล้ว แค่คุณแพ็คกระเป๋าก็พร้อมออกเดินทางทันที2. มีไกด์ที่มีความรู้และประสบการณ์การมีไกด์นำเที่ยวที่มีความรู้และประสบการณ์ทำให้เราหมดห่วงทั้งด้านภาษา วัฒนธรรม และการใช้ชีวิตระหว่างเที่ยวต่างประเทศ นอกจากนี้การเที่ยวยังสนุกขึ้นเพราะมีผู้มีความรู้ที่คอยอธิบายเรื่องราวประวัติความเป็นมาของสถานที่ต่างๆ ให้เราได้ฟังนั่นเอง 3. ไม่ต้องกลัวเมื่อเจออุปสรรคด้านภาษาเพราะการมีไกด์ที่มีความรู้ภาษาที่สามไปด้วย สามารถช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้เราได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ในด้านเอกสารหรือระเบียบขั้นตอนต่างๆ เช่น การเช็คอินที่พักโรงแรม การผ่านตม. สิ่งเหล่านี้ไกด์สามารถแนะนำและจัดการให้เรียบร้อยได้โดยที่คุณไม่ต้องกังวล4. เดินทางไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ได้สะดวกหากเราไปเที่ยวต่างประเทศกับทัวร์ ไม่ต้องห่วงว่าต้องเดินทางเองด้วยรถไฟหรือการคมนาคมที่ไม่สะดวกสบาย เพราะทัวร์จัดให้ทุกอย่าง นอกจากจะทำให้การเดินทางง่ายขึ้นแล้ว ยังประหยัดเวลาและได้พักผ่อนระหว่างเดินทางไปยังที่เที่ยวถัดไปอีกด้วย 5. ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกินเพราะตามโปรแกรมทัวร์มักจะมีการประสานงานกับร้านอาหารต่างๆ ล่วงหน้า ทำให้เราไม่ต้องกลัวว่าจะพลาดของอร่อยเมื่อต้องไปเที่ยว โดยเฉพาะใครที่อยากทานของอร่อยๆ เมื่อไปเที่ยวฮ่องกง เที่ยวเกาหลี หรือเที่ยวญี่ปุ่น รับรองว่าไปกับทัวร์ไม่มีพลาดเมนูเด็ดแน่นอนค่ะ6. ช่วยคุมงบประมาณการไปเที่ยวต่างประเทศกับทัวร์ช่วยให้เราคุมรายจ่ายต่างๆ ได้ดีขึ้น เพราะการเดินทาง ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว ค่าที่พัก ค่าตั๋วเครื่องบิน ฯลฯ รวมอยู่ในแพ็คเกจทัวร์หมดแล้ว งบที่ต้องเตรียมไปก็เพียงแค่งบช้อปปิ้งส่วนตัว และเงินฉุกเฉินค่ะ7. การไปเที่ยวกับทัวร์ราคาถูกกว่าปกติเช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าร้านอาหารหรือการเสียค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ การไปกับทัวร์เราอาจจ่ายได้ถูกลงกว่าไปเที่ยวด้วยตัวเองรู้แบบนี้แล้ว ใครที่ยังกล้าๆ กลัวๆ ไม่กล้าออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศสักที ลองเลือกไปเที่ยวกับบริษัททัวร์ดูสิคะ แล้วประเทศในฝันของคุณก็จะไม่ใช่เรื่องน่ากลัวหรือไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป
