1
ธุรกิจ งาน / เงินบาททรงตัว จับตาสถานการณ์โลกและดีลไทย-สหรัฐฯ
« on: Today at 01:54:05 am »
เงินบาททรงตัว จับตาสถานการณ์โลกและดีลไทย-สหรัฐฯ
วันนี้ (15 ก.ค. 2568) ค่าเงินบาท ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ที่ระดับ 32.35–32.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยตลาดการเงินกำลังจับตาสถานการณ์สำคัญจากทั้งในและต่างประเทศ
ดีลการค้าไทย-สหรัฐฯ: โอกาสสร้างความร่วมมือ
ตลาดกำลังให้ความสนใจกับความคืบหน้าของ ข้อตกลงระหว่างไทยและสหรัฐฯ ซึ่งมีรายงานว่าไทยเตรียมยื่นข้อเสนอใหม่ โดยจะ ลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ให้ใกล้ 0% ในสัดส่วนเกือบ 90% ของมูลค่าการส่งออกมายังไทย นี่ถือเป็นความพยายามของไทยในการกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจท่ามกลางแรงกดดันจากสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป
นโยบายสหรัฐฯ และตลาดโลก: แรงกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยง
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อทิศทางค่าเงินและตลาดโลกคือ ถ้อยแถลงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศจะใช้มาตรการ คว่ำบาตรและขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากรัสเซียสูงถึง 100% หากไม่มีความคืบหน้าในการหยุดยิงกับยูเครนภายใน 50 วัน คำกล่าวนี้สร้างแรงกดดันอย่างมากต่อตลาดการเงินทั่วโลก โดยเฉพาะ สินทรัพย์เสี่ยงและตลาดเกิดใหม่ รวมถึงค่าเงินในภูมิภาคเอเชีย
ญี่ปุ่น: ความกังวลต่อเสถียรภาพการคลัง
.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/webp&w=1024&resize=1024,0&ssl=1)
ขณะเดียวกัน ในฝั่งญี่ปุ่น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10–40 ปี ปรับตัวพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากตลาดมีความกังวลว่าแผนการใช้จ่ายของรัฐบาลญี่ปุ่นอาจเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลังในระยะยาว และอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจต้องพิจารณาปรับนโยบายทางการเงินเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
สถานการณ์เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาทและตลาดการเงินในภาพรวม คุณคิดว่าปัจจัยใดจะส่งผลกระทบมากที่สุดต่อค่าเงินบาทในระยะอันใกล้นี้?
วันนี้ (15 ก.ค. 2568) ค่าเงินบาท ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ที่ระดับ 32.35–32.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยตลาดการเงินกำลังจับตาสถานการณ์สำคัญจากทั้งในและต่างประเทศ
ดีลการค้าไทย-สหรัฐฯ: โอกาสสร้างความร่วมมือ
ตลาดกำลังให้ความสนใจกับความคืบหน้าของ ข้อตกลงระหว่างไทยและสหรัฐฯ ซึ่งมีรายงานว่าไทยเตรียมยื่นข้อเสนอใหม่ โดยจะ ลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ให้ใกล้ 0% ในสัดส่วนเกือบ 90% ของมูลค่าการส่งออกมายังไทย นี่ถือเป็นความพยายามของไทยในการกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจท่ามกลางแรงกดดันจากสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป
นโยบายสหรัฐฯ และตลาดโลก: แรงกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยง
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อทิศทางค่าเงินและตลาดโลกคือ ถ้อยแถลงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศจะใช้มาตรการ คว่ำบาตรและขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากรัสเซียสูงถึง 100% หากไม่มีความคืบหน้าในการหยุดยิงกับยูเครนภายใน 50 วัน คำกล่าวนี้สร้างแรงกดดันอย่างมากต่อตลาดการเงินทั่วโลก โดยเฉพาะ สินทรัพย์เสี่ยงและตลาดเกิดใหม่ รวมถึงค่าเงินในภูมิภาคเอเชีย
ญี่ปุ่น: ความกังวลต่อเสถียรภาพการคลัง
.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/webp&w=1024&resize=1024,0&ssl=1)
ขณะเดียวกัน ในฝั่งญี่ปุ่น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10–40 ปี ปรับตัวพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากตลาดมีความกังวลว่าแผนการใช้จ่ายของรัฐบาลญี่ปุ่นอาจเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลังในระยะยาว และอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจต้องพิจารณาปรับนโยบายทางการเงินเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
สถานการณ์เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาทและตลาดการเงินในภาพรวม คุณคิดว่าปัจจัยใดจะส่งผลกระทบมากที่สุดต่อค่าเงินบาทในระยะอันใกล้นี้?